ข้าวฟืนอุ่น – A Taste of Emilia แบบไทยๆ

ข้าวฟืนอุ่น – A Taste of Emilia แบบไทยๆ

ถ้า A Taste of Emilia เป็นการบอกเล่าเรื่องราวเอกลักษณ์ของอาหารอิตาเลียนทางตอนเหนือ เมนูข้าวฟืนอุ่นจากภาคเหนือนี้ก็คงเป็น Emilia ในบริบทไทย ที่เล่าเรื่องราวของ เส้น ในฐานะที่เป็นวัฒนธรรมร่วมของหลายชนชาติ

หากการปรุงอาหาร แสดงได้ถึงความใส่ใจของผู้ปรุง “แม่” คือคนที่ใส่ใจในสิ่งที่ทำมากคนหนึ่ง

เวลาแม่เข้าครัวทำอาหาร เราเองก็จะขอมีส่วนร่วมชิม​อาหารแม่มาเรื่อยๆตั้งแต่เด็ก​ ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง
แต่ขึ้นชื่อว่าอาหารของแม่ น้อยจานนักที่จะไม่ถูกปาก

ข้าวฟืนอุ่นเป็นเมนูนึงที่เรากินได้ไม่เบื่อ​ แม่เรียกเป็นภาษาไทยว่าข้าวฟืนบ้าง เรียกเป็นภาษาจีนว่า​ “ซีโต่วเฟิ้ง”  บ้าง
จนโตมาไปเจอที่เชียงใหม่เชียงราย ถึงรู้ว่าเค้าเรียกกันว่า​ “ข้าวแรมฟืน”

ถ้า A Taste of Emilia เป็นการบอกเล่าเรื่องราวเอกลักษณ์ของอาหารอิตาเลียนทางตอนเหนือ เมนูข้าวฟืนอุ่นจากภาคเหนือนี้ก็คงเป็น Emilia ในบริบทไทย

ข้าวแรมฟืนมีกินทั้งแบบอุ่นและแบบเย็น​ แบบเย็นจะเป็นเนื้อเจลลี่สีขาวขุ่น​ ตัดเป็นชิ้นๆใส่กับน้ำยำสูตรเฉพาะ​ ส่วนแบบอุ่นจะมีเนื้อสัมผัสเหมือนซุปข้น​ทานกับเครื่องเคียงต่างๆ​ ข้าวฟืนทำได้จากถั่วหลายประเภท​ แต่ที่บ้านจะชอบใช้ถั่วลันเตาทำ​ เป็นอาหารที่เป็นวัฒนธรรมร่วมของหลายชนชาติ​ ที่เข้ามาจากจีนยูนนาน​ ผ่านมาทางคนไทใหญ่ในพม่า​ และเข้ามาทางภาคเหนือของไทย​ เช่น ที่เชียงใหม่ก็หาทานได้ไม่ยาก​ จากกาดบ้านฮ่อ​ และร้านอาหารไทใหญ่ ไทลื้อต่างๆ

แม่เริ่มจากใช้แป้งถั่วลันเตาที่เดี๋ยวนี้มีขายสำเร็จรูป​ ไม่ต้องแช่กรองเองเหมือนเมื่อก่อน​ เอาไปผสมน้ำ แล้วตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน​ ไม่ให้แป้งถั่วจับตัวเป็นก้อน​ ​ ต้มน้ำ​เทแป้งถั่วที่ผสมลงไปจนสุก ไม่เหม็นเขียว

การกินเส้นเป็นวัฒนธรรมร่วมของหลายๆชนชาติ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม เมนูนี้เองก็มีอีกหนึ่งส่วนประกอบที่สำคัญคือเส้น

ในขั้นตอนการกิน แม่จะลวกเส้นใส่ลงไปในชาม แล้วตักข้าวฟืนอุ่นราดลงไป​ เหมือนราดหน้า​ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วเค็ม​ กระเทียมเจียว​ ถั่วลิสงบด งาขาว​ ฯลฯ​ ตามด้วยไอเท็มลับประจำบ้านของแม่ที่หากินไม่ได้จากข้าวฟืนอุ่นที่ไหน

อาหาร คือ วัฒนธรรมที่มีเสน่ห์

ข้าวฟืนหรือข้าวแรมฟืนนี่ก็คงเป็นตัวอย่างหนึ่งของความลื่นไหลทางวัฒนธรรมอาหารที่ส่งผ่านมาในแต่ละกลุ่มคน​ แต่ละพื้นที่​

.. และอาจจะรวมถึงแต่ละบ้านด้วย​

 

แม่ผู้ไม่เคยเข้าใจในงานศิลปะใดๆ

แต่แม่เองนี่แหละ ที่เป็นศิลปินประจำบ้าน ที่มีศิลปะการสร้างสรรค์​อาหารในแบบของแม่ได้อย่างเฉียบที่สุด

 

แข่งขัน