เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น: มหาอำนาจที่ตกต่ำจากยุครุ่งเรืองใน 4 ทศวรรษ

เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น: มหาอำนาจที่ตกต่ำจากยุครุ่งเรืองใน 4 ทศวรรษ

ศักยภาพทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเคยได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง โลกตะวันตกต่างหวาดกลัวการผงาดขึ้นมาของยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย แล้วทำไมเศรษฐกิจของประเทศนี้ที่เกือบจะแซงหน้าอเมริกาในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก กลับจบลงด้วยภาวะเงินฝืดและเกิดความซบเซาทางเศรษฐกิจ ทศวรรษ 1980: ฟองสบู่ที่จะกลืนกินฟองสบู่ทั้งหมด เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในทศวรรษ 1980 ของญี่ปุ่น นั่นคือวิกฤตการณ์ฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ ฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1980 เป็นฟองสบู่ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ฟองสบู่นี้ส่งผลให้ราคาที่ดิน หุ้น และสินทรัพย์อื่นๆ ในญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan) และเทคนิคการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ “window guidance” ส่งผลให้สินทรัพย์ในญี่ปุ่นมีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สหรัฐฯ พยายามลดการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น และกดดันญี่ปุ่นให้ลดค่าเงินเยน ส่งผลให้สหรัฐฯ มีส่วนร่วมในการกระตุ้นราคาสินทรัพย์ในญี่ปุ่นโดยไม่ตั้งใจ การแตกตัวของฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ในปี 1989 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเงินฝืดและชะลอตัวลงอย่างรุนแรง วิกฤตการณ์ฟองสบู่ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเงินฝืดและชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ประชากรสูงอายุและการลดลงของความคาดหวังเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจญี่ปุ่นในระยะยาว ทศวรรษ 1990: ภาวะเงินฝืดจากหนี้สินและวิกฤตการณ์ธนาคาร ภาวะเงินฝืดจากหนี้สิน เกิดขึ้นเมื่อราคาสินค้าและบริการลดลงต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากฟองสบู่ราคาสินทรัพย์แตกในช่วงปลายยุค 80 ทำให้มูลค่าหลักประกันของหนี้สินลดลง ผู้กู้ยืมมีภาระหนี้สูงและกำลังทรัพย์ลดลง ส่งผลให้การบริโภคลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการลดลงอีก เป็นวัฏจักร บทบาทของธนาคารกลาง คือ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่ทันการณ์ […]

ศักยภาพทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเคยได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง โลกตะวันตกต่างหวาดกลัวการผงาดขึ้นมาของยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย แล้วทำไมเศรษฐกิจของประเทศนี้ที่เกือบจะแซงหน้าอเมริกาในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก กลับจบลงด้วยภาวะเงินฝืดและเกิดความซบเซาทางเศรษฐกิจ

ทศวรรษ 1980: ฟองสบู่ที่จะกลืนกินฟองสบู่ทั้งหมด

  • เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในทศวรรษ 1980 ของญี่ปุ่น นั่นคือวิกฤตการณ์ฟองสบู่ราคาสินทรัพย์

  • ฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1980 เป็นฟองสบู่ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ฟองสบู่นี้ส่งผลให้ราคาที่ดิน หุ้น และสินทรัพย์อื่นๆ ในญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

  • นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan) และเทคนิคการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ “window guidance” ส่งผลให้สินทรัพย์ในญี่ปุ่นมีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

  • สหรัฐฯ พยายามลดการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น และกดดันญี่ปุ่นให้ลดค่าเงินเยน ส่งผลให้สหรัฐฯ มีส่วนร่วมในการกระตุ้นราคาสินทรัพย์ในญี่ปุ่นโดยไม่ตั้งใจ

  • การแตกตัวของฟองสบู่ราคาสินทรัพย์ในปี 1989 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเงินฝืดและชะลอตัวลงอย่างรุนแรง

  • วิกฤตการณ์ฟองสบู่ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเงินฝืดและชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ประชากรสูงอายุและการลดลงของความคาดหวังเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจญี่ปุ่นในระยะยาว

ทศวรรษ 1990: ภาวะเงินฝืดจากหนี้สินและวิกฤตการณ์ธนาคาร

  • ภาวะเงินฝืดจากหนี้สิน เกิดขึ้นเมื่อราคาสินค้าและบริการลดลงต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากฟองสบู่ราคาสินทรัพย์แตกในช่วงปลายยุค 80 ทำให้มูลค่าหลักประกันของหนี้สินลดลง ผู้กู้ยืมมีภาระหนี้สูงและกำลังทรัพย์ลดลง ส่งผลให้การบริโภคลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการลดลงอีก เป็นวัฏจักร

  • บทบาทของธนาคารกลาง คือ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่ทันการณ์ จึงไม่สามารถหยุดวัฏจักรเงินฝืดจากหนี้สิน

  • วิกฤตการณ์ธนาคาร เกิดจากเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้ธนาคารระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ ธนาคารบางแห่งประสบปัญหาขาดทุน รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าช่วยเหลือธนาคารบางแห่งด้วยเงินภาษี แต่การช่วยเหลือไม่เพียงพอ วิกฤตการณ์ธนาคารจึงลากยาวมาจนถึงปลายยุค 90

  • วิกฤตการณ์ธนาคารช่วยกำจัดหนี้สินที่เกิดจากฟองสบู่ ปิดฉากภาวะเงินฝืดจากหนี้สิน และธนาคารพร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 21

ทศวรรษ 2000: กับดักความคาดหวังเงินเฟ้อ

  • เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในทศวรรษ 2000 ของญี่ปุ่น นั่นคือภาวะเงินฝืดที่เกิดจากความคาดหวังเงินเฟ้อที่ต่ำ

  • ความคาดหวังเงินเฟ้อเป็นความเชื่อของคนทั่วไปว่าราคาสินค้าและบริการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ความคาดหวังเงินเฟ้อที่ต่ำจะส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย เพราะเชื่อว่าราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ภาวะเงินฝืดที่เกิดจากความคาดหวังเงินเฟ้อที่ต่ำจึงเกิดขึ้นได้

  • ในทศวรรษ 2000 เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับปัญหาภาวะเงินฝืด ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยลงต่ำมาก แต่นโยบายเหล่านี้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้

  • ความล้มเหลวของนโยบายการเงินของ BOJ เกิดจากความคาดหวังเงินเฟ้อที่ต่ำของคนญี่ปุ่น ผู้คนเชื่อว่าราคาสินค้าและบริการจะไม่เพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้นจึงชะลอการใช้จ่าย ส่งผลให้เศรษฐกิจยังคงชะลอตัวลง

ทศวรรษ 2010: นโยบาย Abenomics และประชากรสูงอายุ

  • นโยบาย Abenomics เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ริเริ่มโดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อว่า ชินโซ อาเบะ ในปี 2012

  • นโยบายนี้ประกอบด้วยสามเสาหลัก ได้แก่ 1. การคลังแบบเชิงรุก คือการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 2. การเงินแบบผ่อนคลาย คือการลดอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ 3. โครงสร้างพื้นฐาน คือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ

  • นโยบาย Abenomics ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้ฟื้นตัวได้บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นกลับสู่ภาวะปกติได้

  • นอกจากนโยบาย Abenomics แล้ว ปัญหาประชากรสูงอายุก็เป็นอีกปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ประชากรญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดต่ำและอัตราการตายสูง ส่งผลให้จำนวนประชากรวัยแรงงานลดลง สิ่งนี้ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

อนาคตของเศรษฐกิจในญี่ปุ่น

  • อนาคตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก แต่มีปัจจัยหลายประการที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในอนาคต ได้แก่

  • ปัญหาประชากรสูงอายุ: ประชากรญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดต่ำและอัตราการตายสูง ส่งผลให้จำนวนประชากรวัยแรงงานลดลง สิ่งนี้ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

  • การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ: โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เช่น การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในรูปแบบต่างๆ เช่น การสูญเสียตำแหน่งงานบางประเภทและความต้องการทักษะใหม่

  • การแข่งขันจากต่างประเทศ: เศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ เช่น จีนและอินเดีย กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้อาจทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นสูญเสียส่วนแบ่งตลาดและความสามารถในการแข่งขัน

  • จากปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยังคงชะลอตัวลงต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบางประการที่อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ เช่น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่

ขอบคุณข้อมูลจาก :

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.marketwatch.com/story/japans-economy-worse-than-initially-reported-2014-12-07

งานเขียนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิชา

751309 Macro Economic 2

ซึ่งสอนโดย ผศ.ดร. ณพล หงสกุลวสุ

คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

งานชิ้นนี้ เขียนโดย

รัฐนันท์ อนันตพรรค 651610376

ECON-CMU