Blockchain ICP คืออะไร ทำไมถึงมาแรงในช่วงนี้

Blockchain ICP คืออะไร ทำไมถึงมาแรงในช่วงนี้

หลายคนคงได้ยินชื่อของBlockchainตัวนี้กันมาบ้างแล้ว แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะรู้จักฟังก์ชันการทำงาน และประโยชน์ของมันอย่างแท้จริง บทความนี้จึงเขียนขึ้นมาเพื่ออธิบายความหมาย ความเป็นและจุดเด่นของบล็อกเชนตัวนี้

Internet Computer(ICP) คือ เครือข่ายบล็อกเชนที่มุ่งพัฒนาอินเตอร์เน็ตแบบกระจายศูนย์ และระบบจัดเก็บข้อมูลในราคาถูกเพื่อแทนที่อินเทอร์เน็ตแบบดั้งเดิม ICP ถูกสร้างขึ้นโดย DFINITY Foundation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ก่อตั้งโดย Dominic Williams ในปี 2016  เป็นแพลตฟอร์มบนบล็อกเชนที่ให้บริการการประมวลผลบนคลาวด์แบบกระจายศูนย์และมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความสามารถในการปรับขนาด ความสามารถในการทำงานร่วมกัน และการกำกับดูแลแบบกระจายศูนย์ โปรแกรมต่างๆ ที่อยู่บนICP ถูกสร้างในรูปแบบของสัญญาSmart contract เรียกว่า Canister หรือ Canister smart contract โดย Canister แต่ละตัวประกอบไปด้วย bytecode และที่จัดเก็บข้อมูล โดยโค้ดและข้อมูลของ Canister บน Subnet จะถูกจัดเก็บใน Node ต่าง ๆ ที่ประกอบกันเป็น Subnet ทำให้ทนทานต่อการทำงานที่ผิดพลาด ICP เลือกใช้การเข้ารหัสแบบ Chain-key  ที่อนุญาตให้บล็อกเชนสามารถสามารถสรุปการทำธุรกรรมและอัปเดตสถานะสัญญา  Smart contract ได้ภายใน 1-2 วินาที  โดยการแบ่ง Canister ออกเป็น 2 ส่วนได้แก่ ส่วนเรียกใช้การอัปเดตทุกๆ 1 ถึง 2 วินาที และส่วนเรียกใช้การค้นหาที่จะเปลี่ยนแปลงในระดับมิลลิวินาที

ส่วนประกอบอื่นของ Chain-key cryptography ได้แก่ Threshold Signature Scheme (TSS) ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ สร้างขึ้นจาก Private key และ Public key โดยTSSจะทำ การแบ่ง Private key เป็น Secret share เก็บเอาไว้ใน Node ที่แตกต่างกัน ทำให้ Node ต่างๆต้องติดต่อกันเพื่อสร้าง Private key โดยไม่สร้าง Private key ขึ้นใหม่ในสถานที่เดียว การกำกับดูแลใน ICP ถูกควบคุมโดย Network Nervous System (NNN) นี่คือโครงสร้างการกำกับดูแลแบบโทเค็นที่สร้างขึ้นโดย Canister ซึ่งการตัดสินใจต่างๆ จำเป็นต้องมีCanister ที่มีส่วนร่วมในการกำกับดูแลและ Canister ที่กำหนดค่าของเครือข่าย โดยข้อเสนอใดก็ตามจะได้รับการดำเนินการเมื่อได้รับการโหวตคะแนนเสียงข้างมาก

 ICP คาดหวังว่า จะสร้างอินเทอร์เน็ตกระจายอำนาจแบบ Open-source ที่ซึ่งบริการต่างๆ จะส่งตรงสู่ผู้ใช้บริการโดยตรงโดยไม่ต้องพึ่งพาเซิฟเวอร์กลาง แก้ปัญหาการความเป็นส่วนตัวและการถูกเซ็นเซอร์ที่เกิดขึ้นในระบบอินเทอร์เน็ตแบบดั้งเดิม ผู้ใช้งาน dApps ที่สร้างขึ้นบน ICP จะถูกถือว่า เป็นผู้ร่วมสร้างแอปพลิเคชันจากการที่โทเค็นที่ใช้ในการปกครองอนุญาตให้ผู้ถือสามารถตัดสินใจสถานะของเครือข่ายได้ ทั้งยังมุ่งแก้ไขปัญหาการปรับขนาดของบล็อกเชนรุ่นแรกๆ อีกด้วย

Internet Computer เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้บล็อกเชนซึ่งนำเสนอบริการประมวลผลบนคลาวด์แบบกระจายศูนย์ ICP เป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Internet Computer ที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรม สร้างแรงจูงใจให้กับผู้เข้าร่วมเครือข่าย และเข้าถึงบริการของแพลตฟอร์ม Internet Computer มอบแนวทางที่มีประสิทธิภาพและกระจายศูนย์มากขึ้นสำหรับการประมวลผลแบบคลาวด์แบบดั้งเดิม

ข้อดีของICP

1.) Internet Computer เป็นระบบคอมพิวเตอร์แบบกระจายศูนย์ที่สามารถเรียกใช้ซอฟต์แวร์ใดๆ ก็ได้ ทำให้สามารถปรับขนาดเพื่อรองรับผู้ใช้และแอปพลิเคชันได้ไม่จำกัดจำนวน โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพหรือความปลอดภัย

2.) Internet Computer ทำงานโดยใช้เครือข่ายของอุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า node machines เครื่องเหล่านี้เชื่อมต่อถึงกันโดยใช้ Internet Computer Protocol (ICP) และติดตั้งในศูนย์ข้อมูลที่เป็นอิสระโดย “ผู้ให้บริการโหนด” อิสระ

3.) Internet Computer blockchain ประกอบด้วย subnet blockchains ซึ่งรวมกันเป็นบล็อกเชน logical เดียวโดยใช้การเข้ารหัสคีย์ลูกโซ่ สัญญาอันชาญฉลาดบน Internet Computer สามารถประมวลผลคำขอ HTTP และให้บริการประสบการณ์เว็บแบบโต้ตอบโดยตรงกับผู้ใช้ปลายทาง ทำให้มีความปลอดภัยมากกว่าการให้บริการของเว็บปกติ

4.) เครือข่ายได้รับการควบคุมและจัดการโดย subnet หลัก ซึ่งรัน DAO ขั้นสูงแบบ Permissionless ที่เรียกว่า Network Nervous System (NNS) นักพัฒนาสร้างโดยใช้สัญญาอัจฉริยะ “canister” ซึ่งเป็นชุดของ WebAssembly bytecode และ persistent memory pages ภาษาหลักที่ใช้ในการพัฒนาสัญญาอัจฉริยะของ Internet Computer คือ Rust และ Motoko

5.) นักพัฒนาสามารถใช้ Internet Computer เพื่อสร้างระบบกระจายศูนย์เต็มรูปแบบ เช่น DeFi บน Ethereum โดยใช้ประสบการณ์เว็บแบบโต้ตอบและกระจายศูนย์มากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาบริการคอมพิวเตอร์คลาวด์แบบรวมศูนย์

6.) โดยรวมแล้ว คอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ตถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการคำนวณแบบกระจายอำนาจ Internet Computer นำเสนอแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย ปรับขนาดได้ และทำงานร่วมกันได้สำหรับการพัฒนาและปรับใช้แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Internet Computer มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราจัดการกับ Cloud computing และอินเทอร์เน็ตโดยทั่วไป

คุณสมบัติ Internet Computer (ICP)

Internet Computer เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้บล็อกเชนปฏิวัติที่นำเสนอคุณสมบัติที่น่าตื่นเต้นมากมายแก่นักลงทุนที่มีศักยภาพ ด้านล่างนี้คือคุณลักษณะบางประการของ Internet Computer ที่ทำให้เป็นโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจ:

1.) กระจายศูนย์: Internet Computer เป็นเครือข่ายบล็อคเชนที่มีการกระจายอำนาจโดยสมบูรณ์ ซึ่งทำงานโดยไม่ต้องพึ่งตัวกลางจากส่วนกลาง ทำให้มีความปลอดภัยสูงและทนทานต่อการเซ็นเซอร์

2.) ปรับขนาดได้: Internet Computer (IC) ได้รับการออกแบบมาให้สามารถปรับขยายได้สูง ช่วยให้สามารถรองรับข้อมูลจำนวนมหาศาล และรองรับผู้ใช้และแอปพลิเคชันจำนวนมาก

3.) Canister Smart Contracts: Internet Computer ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างและปรับใช้สัญญาอัจฉริยะโดยใช้แนวทางที่เรียกว่า “Canisters” โดย Canisters เป็นหน่วยการคำนวณในตัวเองและเป็นอิสระ ซึ่งสามารถโต้ตอบกับ Canisters อื่นๆ และระบบภายนอกได้

4.) การทำงานร่วมกัน: Internet Computer ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่น สื่อสารและแบ่งปันทรัพยากรกับบล็อคเชนและระบบดั้งเดิมอื่น ๆ ช่วยให้สามารถบูรณาการอย่างราบรื่นกับแอปพลิเคชันและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่

5.) การกำกับดูแล: Internet Computer ใช้โครงสร้างการกำกับดูแลแบบกระจายศูนย์ที่ทำให้เป็นประชาธิปไตยในการตัดสินใจของ Internet Computer

6.) โทเค็นดั้งเดิม: Internet Computer มีโทเค็นดั้งเดิมที่เรียกว่า ICP ซึ่งใช้สำหรับการกำกับดูแล ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม และให้รางวัลแก่นักพัฒนาที่มีส่วนสนับสนุนการเติบโตของแพลตฟอร์ม

เหตุผลที่ทำให้ Internet Computer Protocol (ICP) มีมูลค่า

Dominic Williams ผู้ก่อตั้งและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ DFINITY Foundation กล่าวอ้างว่าโปรโตคอลของเขาสร้างแพลตฟอร์มที่ป้องกันการแฮ็กได้ โดยไม่เพียงให้ประสิทธิภาพในการใช้งานร่วมกันได้เท่านั้น แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับบริการอินเทอร์เน็ตแบบเก่าด้วย ICPจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายลงเพราะไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเป็นค่าเอาต์พุตของ Canister  โดย Canister จะได้รับการชาร์จล่วงหน้าด้วยรอบทำงาน ซึ่งช่วยให้จ่ายค่าการคำนวณโดยใช้โมเดลแบบค่าแก๊สผันกลับได้ ดังนั้นผู้ใช้จึงไม่จำเป็นต้องมีโทเค็น Internet Computer ก็ใช้แพลตฟอร์ม ICP ได้ ถือเป็นการลดอุปสรรคในการเริ่มใช้งานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลอิสระยังได้รับโทเต็น ICP สำหรับนำไปใช้ชาร์จ Canister ด้วยรอบการทำงานด้วย

ที่สำคัญคือ ICP ใช้กลไกฉันทามติ 4 ชั้นแบบ Proof of Stake (PoS) เพื่อรักษาความปลอดภัย โดยประกอบด้วยชั้นรับรอง ชั้นบล็อกเชน ชั้นบีคอน และชั้นตัวตน ชั้นเหล่านี้ประกอบรวมกันและกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย ซึ่งทนทานต่อการถูกโจมตีทั่วไป เช่น การโจมตีแบบ 51% Attack และการโจมตี Sybil แต่ถึงกระนั้น ICP ยังคงมีการกระจายศูนย์และความสามารถในการปรับขนาด

สิ่งใดทำให้ Internet Computer (ICP) มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

สิ่งที่ทำให้ Internet Computer (ICP) มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือแพลตฟอร์มการประมวลผลบนคลาวด์อเนกประสงค์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบกระจายศูนย์ ความสามารถในการปรับขนาด และความสมบูรณ์ของ Turing เครือข่ายโหนดอิสระทั่วโลกรับประกันความปลอดภัย ในขณะที่ความโปร่งใสช่วยเพิ่มความไว้วางใจของผู้ใช้ ICP ยังมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจแทนแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์

ICP มอบสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น การกระจายศูนย์ ความปลอดภัย และความโปร่งใส การกระจายศูนย์ของคอมพิวเตอร์ทางอินเทอร์เน็ตทำให้มันแตกต่างจากแพลตฟอร์มการประมวลผลแบบคลาวด์แบบรวมศูนย์ ทำให้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุด ความโปร่งใสของ ICP ช่วยให้ทุกคนเห็นวิธีการทำงาน ซึ่งเพิ่มความไว้วางใจในหมู่ผู้ใช้ ICP ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถรันแอปพลิเคชันได้ในราคาที่ต่ำกว่าแพลตฟอร์มการประมวลผลแบบคลาวด์แบบรวมศูนย์

ทุกคนสามารถสร้างแอปโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนของ ICP ได้ โดยนักพัฒนาแอปอาจจะทดสอบแอปในขั้นตอนสุดท้ายจาก APK เพิ่มลายมือชื่อเข้าไปในแอป แล้วเปิดตัวแอปโดยใช้เทคโนโลยีนี้ Dominic Williamsทำให้เทคโนโลยีไม่ได้อยู่บนระบบคลาวด์ แต่ใช้ฮาร์ดแวร์เฉพาะที่บริษัทอื่นพัฒนาขึ้นมา นอกจากนี้ IC ยังทำงานที่ความเร็วเว็บ แตกต่างจากคริปโตส่วนใหญ่ที่ใช้เวลา 30 นาทีขึ้นไปในการทำธุรกรรม ฟีเจอร์หลายอย่างทำให้ ICP เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักพัฒนาและองค์กร เนื่องจากช่วยให้ผู้ใช้สร้างและเผยแพร่เนื้อหาโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยบริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีอย่าง Amazon, Google หรือ Facebook

ความเร็ว

สำหรับผู้ที่สนใจในเทคโนโลยีบล็อกเชนแล้ว ความเร็วคือหนึ่งในปัจจัยหลักในการก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ความเร็วเป็นสิ่งที่วัดได้ ไม่เหมือนกับความปลอดภัยและความสามารถในการปรับขนาด

ความเร็วพิจารณาจากจำนวนธุรกรรมที่เครือข่ายสามารถประมวลผลได้ต่อวินาที (TPS)

การหาความเร็วธุรกรรมจะใช้ตัวชี้วัด 3 อย่าง ได้แก่:

1.) ขนาดบล็อก จำนวนข้อมูลสูงสุดที่บล็อกจัดเก็บไว้ได้ (หน่วยเป็นไบต์)

2.) เวลาบล็อก: ปริมาณเวลาที่ใช้สร้างบล็อกใหม่ขึ้นมาบนบล็อกเชน

3.) ขนาดธุรกรรมเฉลี่ย ขนาดของธุรกรรมเฉลี่ยบนเครือข่ายบล็อกเชน

Internet Computer ไม่มีการจำกัดจำนวนธุรกรรมต่อวินาที ไม่เหมือนกับ คริปโตเคอเรนซีอื่นๆ เช่น Ethereum (15 TPS), Polkadot (1,000 TPS), Cardano (250 TPS) และ Solana (50,000 TPS)

นักลงทุนสามารถซื้อเหรียญ ICP ได้จากแหล่างต่างๆดังนี้

นักลงทุนที่สนใจ สามารถซื้อ ICP ได้จากกระดานเทรดชั้นนำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Binance, OKX, Deepcoin, Bitrue และ Bybit เป็นต้น

แหล่งที่มาของข้อมูล

https://siamblockchain.com/2023/07/07/everything-you-should-know-about-the-internet-computer-icp/

https://news.trueid.net/detail/1NewLZMe5eQp

https://www.coinex.com/th/blog/4549-what-is-internet-computer-icp?categoryId=0

https://www.bybit.com/th-TH/coin-price/internet-computer/

บทความนี้ไม่มีเจตนาจะชักชวนผู้อ่านให้ลงทุนแต่อย่างใด เพียงแต่อธิบายความหมายและจุดเด่นของบล็อกเชนICPเท่านั้น

งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา 751471 Econ of DeFi (Decentralized Finance)

ซึ่งสอนโดย ผศ.ดร.ณพล หงสกุลวสุ

คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

งานชิ้นนี้ เขียนโดย

นาย ภูมินทร์ ชาญประเสิรฐ รหัสนักศึกษา 641610371

 

 

 

None