
ลิ้มรสชาติอาหารไทยพื้นบ้านแบบสำรับโดยรสมือคุณยายจากร้านบ้านตาเรือง
จุดเริ่มต้นของร้านบ้านตาเรือง ร้านอาหารไทยพื้นบ้านแบบสำรับพร้อมประสบการณ์จากการได้ลิ้มรสชาติอาหารรสมือคุณยาย
ร้านบ้านตาเรือง ประวัติความเป็นมาของร้าน
ร้านบ้านตาเรือง ร้านอาหารไทยพื้นบ้านรสมือคุณยายที่ขายเป็นแบบสํารับตามใจแม่ครัว ซึ่งชื่อร้านนั้นได้มาจากคุณตาเรืองผู้เป็นทวดของคุณหวายและเป็นเจ้าของที่ดินที่ตั้งอยู่ในเขตดินแดงแห่งนี้ โดยทางคุณหวายเจ้าของร้านได้เล่าว่าแต่ก่อนนั้นตนได้ประกอบอาชีพเป็น Make up Artist และชื่นชอบหลงไหลในอาชีพนี้มากแต่เนื่องจากคุณยายของคุณหวายเสียคุณหวายจึงตระหนักถึงความสําคัญของครอบครัวและอยากมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้นจึงตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อกลับมาดูแลคุณยายท่านอื่นๆและได้เปิดร้านอาหารบ้านตาเรืองขึ้นโดยมีคุณยายของคุณหวายอีกท่านเป็นแม่ครัวประจําร้าน โดยทางร้านบ้านตาเรืองนั้นเมื่อเข้ามาในร้านแล้วก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศสมัยก่อนที่มีความอบอุ่นเหมือนได้นั่งทานข้าวกับครอบครัวพบปะกับญาติผู้ใหญ่
โดยทางร้านบ้านตาเรืองจะเสิร์ฟอาหารเป็นสํารับอาหารไทยพื้นบ้านโดยใน 1 สํารับจะมีอาหารทั้งหมด 4 เมนูซึ่งประกอบไปด้วยอาหารว่าง อาหารคาวและของหวาน ซึ่งในวันที่ดิฉันได้มาทานนั้นทางคุณหวายก็ได้จัดเตรียมอาหารสํารับใหญ่ไว้ให้เนื่องจากมารับประทานอาหารกันหลายคนโดยคุณหวายได้เริ่มเซิร์ฟเมนูอาหารว่างเป็นอย่างแรกก็คือ
แตงโมหมูหยองผัด ส่วนตัวไม่เคยทานมาก่อนแต่พอได้ลองทานแล้วเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมาก มีความสดชื่นพร้อมทั้งได้ความหวานจากหมูหยองผัดที่โรยด้วยนํ้าตาลทําให้รสชาติส่งเสริมกันได้ลงตัวมากๆเลย และตามมาด้วยอาหารว่างอย่างที่สอง
เมี่ยงคํา ซึ่งประกอบไปด้วยใบชะพลูสีเขียวสด ถั่วลิสงที่คั่วมาใหม่ๆมีกลิ่นหอมจากการคั่ว กุ้งแห้งที่มีความนุ่มพอดีไม่แห้งจนเกินไป และที่ขาดไม่ได้เลยคือตัวมะพร้าวคั่วกรอบที่ให้ความหอมมันและตัวนํ้าเมี่ยงที่ข้นหนืดกําลังดีมีรสชาติหวานกลมกล่อมและเครื่องเคียงอื่นๆตามสไตล์เมี่ยงคําแต่ที่สําคัญสุดเลยคือความสดใหม่ของวัตถุดิบเมื่อนำมาห่อรับประทานรวมกันแล้วได้รสชาติที่หวานมันหอมรับประทานได้เรื่อยๆเลย เมื่อทานอาหารว่างเสร็จคุณหวายก็ได้นําอาหารคาวมาเสิร์ฟโดยเมนูแรกจะเป็น
หมี่กะทิผัดไข่ ที่มีส่วนผสมเป็นกากหมู กุ้งแห้ง ไข่ เส้นหมี่ขาว โรยหน้าด้วยผักชีและพริกชี้ฟ้า เสิร์ฟพร้อมผักเคียง ซึ่งได้แก่ ต้นหอม มะนาว ถั่วงอก โดยตัวหมี่ผัดกะทินั้นมีรสชาติหวานกลมกล่อมมีความหอมที่มาจากตัวกุ้งแห้งได้ความกรอบและหอมของกากหมูเข้ามาผสมเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสได้ดียิ่งขึ้นและต่อมาอาหารคาวอย่างที่สองก็คือ
นํ้าพริกกะปิปลาทูทอด ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับผักลวกและข้าวสวยหอมมะลิร้อนๆโดยตัวนํ้าพริกกะปินั้นมีรสชาติจัดจ้านกลิ่นกะปิไม่แรงเกินไปทานคู่กับปลาทูทอดที่มีเนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มในเนื้อแน่นสดและตัวใหญ่เมื่อทานรวมกันกับข้าวสวยร้อนๆแล้วได้ความหอมนุ่มของข้าวสวยเข้ามาผสมลงตัวได้อย่างดีเลยและต่อด้วยอาหารคาวอย่างที่สามก็คือ
ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ โดยในส่วนของน้ำแกงเขียวหวานนั้นมีรสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องแกงเขียวหวานตัวเครื่องแกงคั่วจนแตกมันและเขี้ยวจนได้รสชาติที่เข้มข้นให้รสชาติที่จัดจ้านและหอมกลิ่นเครื่องแกงตัวมะเขือมีความเปื่อยแต่ไม่เละจนเกินไปและตัวเนื้อไก่นุ่มกําลังดีทานคู่กับเส้นขนมจีนสดเข้ากันได้ดีมากเลยและต่อมาอาหารคาวอย่างที่สี่ก็คือ
กุ้งทอดซอสมะขาม กุ้งทอดซอสมะขามเสิร์ฟพร้อมไข่ลูกเขยจุดเด่นอยู่ที่การทอดและนํ้าซอสที่กลมกล่อม ตัวกุ้งมีความสดและเนื้อมีความหวานฉ่ำนํามาทอดได้กรอบพอดีทำให้ไม่เสียความชุ่มฉํ่าของตัวกุ้งและที่ขาดไม่ได้คือไข่เป็ดลูกเขยที่ทอดได้กรอบและด้านในไข่ขาวสุกพอดีไข่แดงเป็นยางมะตูมหอมมันอร่อยโดยมีหมี่กรอบลองไว้ด้านล่างสุดและต่อมาปิดท้ายด้วยอาหารคาวอย่างสุดท้ายก็คือ
ซี่โครงอ่อนหมูตุ๋น โดยทางร้านใช้เนื้อหมูส่วนที่ติดกระดูกอ่อนและตุ๋นจนเปื่อยให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนส่วนตัวนํ้าซุปมีรสชาติหวานเค็มกําลังพอดีเสิร์ฟพร้อมพริกนํ้าปลาเพื่อเพิ่มรสชาติความเผ็ดร้อนเมื่อจบเมนูอาหารคาวแล้วคุณหวายก็ได้เสิร์ฟเมนูของหวานเมนูแรกก็คือ
ข้าวเหนียวสังขยา ที่เสิร์ฟพร้อมกุ้งผัดเค็มที่มีรสชาติเค็มหวานกําลังดีตัดความหวานของตัวข้าวเหนียวสังขยาได้อย่างลงตัวในส่วนของตัวสังขยามีหน้าเรียบเนียนเนื่องจากทางร้านได้ทําการเปิดฝาเพื่อสลัดนํ้าทิ้งทุกๆ5นาทีเพื่อไม่ให้หน้าของสังขยานั้นเป็นฟองอากาศ โดยตัวสังขยามีเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนละลายในปากรสชาติหวานกําลังดีกินคู่กับข้าวเหนียวมูลที่มีความนุ่มหอมมันเมื่อกินรวมกันมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หอมหวานละมุนเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมากเลยและเมนูของหวานอย่างต่อไปก็จะเป็น
ครองแครงกะทิสด โดยทางคุณหวายได้ทำการเสิร์ฟแบบร้อนซึ่งทำให้ตัวน้ำกะทิมีความหอมกรุ่นและมีรสเค็มที่กำลังพอดีโดยมีตัวครองแครงเป็นตัวให้รสหวานตัดกับรสชาติของน้ำกะทิและเสิรมความหอมจากงาขาวเมื่อทานรวมกันแล้วได้รสชาติที่หอมหวานกลมกล่อมมากๆเลยและปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่างสุดท้ายก็คือ
วุ้นกะทิมะพร้าว ที่มีความหอมจากกลิ่นกะทิและกลิ่นมะพร้าวโดยมีรสชาติที่หวานกําลังพอดีให้ความละมุนปิดท้ายสําหรับสํารับอาหาร
โดยทางร้านบ้านตาเรืองนั้นตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 1151/3 ซอยรัชดาภิเษก3 แยก14 ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร
ซึ่งทางร้านจะเปิดเฉพาะ วันอังคาร – วันพฤหัสบดี เวลา 11.30-15.30น.
สําหรับท่านใดที่โดยสารมาโดยรถยนต์ส่วนบุคคลทางร้านมีบริการที่จอดรถให้ 2-3 คัน หรือสามารถนั่ง MRT มาได้เลยซึ่งร้านบ้านตาเรืองจะอยู่ห่างจาก MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และ MRT พระราม 9 เพียง 800 เมตร สามารถติดต่อสอบถามก่อนเข้ามาทานที่ร้านได้ทาง
เบอร์โทรศัพท์ : 063-551-6554
Facebook : Baan Ta Ruang บ้านตาเรือง
Instagram : baantaruang
หรือสั่งผ่าน food delivery ได้เลย