
Blue Origin
บลูออริจินเฟเดอเรชัน เป็นบริษัทเอกชนผู้ผลิตอวกาศและบริการการบินอวกาศระดับต่ำกว่าวงโคจร มีสำนักงานใหญ่ในเคนต์ รัฐวอชิงตัน สหรัฐ เจฟ เบโซสก่อตั้งในปี 2000 และกำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้มนุษย์สามารถเดินทางไปอวกาศแบบเอกชนได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความน่าเชื่อถืออย่างมาก บลูออริจินใช้แนวทางแบบค่อยเป็นค่อยไปจากเที่ยวบินต่ำกว่าวงโคจรไปเป็นวงโคจร
Blue Origin คืออะไร ?
Blue Origin เป็นบริษัทเอกชนที่ให้บริการเดินทางไปอวกาศ รวมถึงผลิตจรวดเองด้วย โดยบริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นโดยคุณ Jeff Bezos ประธานกรรมการบริหาร หรือ chief executive officer (CEO) ของ Amazon ซึ่งคน ๆ นี้ก็คือมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย อ้างอิงจากผลสำรวจของ Bloomberg Billionaire Index ที่ได้เปิดเผยว่า เจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos) แห่ง Amazon ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงแตะ 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4.95 ล้านล้านบาท
หลังจากพัฒนาเทคโนโลยีของตนมาเกือบ 20 ปี ทดสอบยิงจรวดไปกว่า 20 ครั้ง ล่าสุดวันนี้ Blue Origin ได้ทำภารกิจยิงจรวด New Shepard พร้อมผู้โดยสาร 4 คนขึ้นสู่อวกาศและกลับมาลงจอดได้สำเร็จ
จรวด New Shepard ถูกยิงออกจากฐานยิงที่เมือง Van Horn รัฐ Texas เมื่อเวลา 20:13 น. ของวันที่ 20 กรกฎาคม 2021 ตามเวลาประเทศไทย มีผู้โดยสาร 4 คนคือ Jeff Bezos, Mark Bezos น้องชายของ Jeff, Wally Funk อดีตนักบินหญิงอายุ 82 ปี ทำสถิติมนุษย์ที่อายุมากที่สุดที่ขึ้นสู่อวกาศ และ Oliver Daemen ลูกชายอายุ 18 ปีของมหาเศรษฐีจากเนเธอร์แลนด์ ทำสถิติมนุษย์ที่อายุน้อยที่สุดที่ขึ้นสู่อวกาศ
หลังยิงจรวดออกไปราว 3 นาที แคปซูลที่ผู้โดยสารประจำอยู่ก็แยกตัวออกจากจรวด New Shepard ไล่เลี่ยกับการผ่าน Kármán Line หรือจุดที่ถือว่าเข้าสู่อวกาศ โดยขึ้นไปสูงสุดที่ราว 107 กิโลเมตรจากระดับน้ำทะเล และจุดนี้จะเป็นช่วงที่ผู้โดยสารได้ลิ้มรสความรู้สึกของภาวะไร้แรงโน้มถ่วงด้วย ในขณะเดียวกัน จรวด New Shepard ก็ร่อนกลับมาลงจอดบนพื้นโลกได้สำเร็จราว 4 นาทีหลังแยกตัว ราว 8 นาทีครึ่งหลังยิงจรวด แคปซูลก็ตกกลับลงมาถึงความสูงราว 1.4 กิโลเมตรก่อนจะปล่อยร่มชูชีพเพื่อลดความเร็ว และลงแตะพื้นโลกอย่างปลอดภัย โดยทีมงานได้เข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยและต้อนรับผู้โดยสารทั้ง 4 คนกลับสู่โลก