กัญชาถูกกฎหมาย ทำให้ยอดขายของหวานเพิ่มสูงขึ้น และยอดขายแอลกอฮอล์ลดลง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเด็นเรื่องการปลดกัญชาออกจากสารเสพติด เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ หรือการใช้ประโยชน์ในเชิงสันทนาการ เป็นที่พูดถึงทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยในแง่ของความเคลื่อนไหว ประเทศสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการทยอยเปลี่ยนแปลงกฎหมายกัญชาในรัฐต่างๆ ซึ่งประเด็นเรื่องของประโยชน์และโทษของกัญชาก็นับว่าเป็นที่ถกเถียงกันมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ BrandThink ไม่ได้มาชวนคุยเกี่ยวกับข้อดีหรือข้อเสียทางตรงของกัญชา แต่จะชวนทุกคนมาสำรวจพฤติกรรมข้างเคียงที่เปลี่ยนไปของผู้คน เมื่อกัญชากลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ต้องขออธิบายก่อนว่า การใช้กัญชามีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความรู้สึกอยากอาหาร โดยเฉพาะอาหารในกลุ่มของหวานและของขบเคี้ยว และในประเทศที่มีปัญหาเรื่องโรคอ้วน (Obesity) อย่างสหรัฐฯ ประเด็นนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึง มหาวิทยาลัย Georgia State ได้ศึกษาเรื่องนี้โดยเปรียบเทียบช่วงเวลาที่ต่างกัน ระหว่างการอนุญาตให้กัญชาถูกกฎหมาย แล้วพวกเขาก็พบว่า รัฐที่มีการทำให้กัญชาถูกกฎหมาย จะส่งผลให้ยอดขายของหวานและอาหารขยะ (Junk Food) พุ่งสูงขึ้น ไอศกรีม 3.1% คุกกี้ 4.1% มันฝรั่งทอด 5.5% ถึงแม้อาจจะพิสูจน์ได้ยากว่า การถูกกฎหมายของกัญชาเป็นเพียงปัจจัยเดียว ที่ทำให้ยอดขายของหวานเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้น แต่คนที่เคยใช้กัญชาน่าจะพอนึกภาพออกว่า ช่วงเวลาที่คุณ ‘ลอย’ หรือกำลังแข็งเป็นหิน (Stoner) ของหวาน เป็นเหมือนอาหารอันโอชะที่ช่างเย้ายวนคุณเสียเหลือเกิน ความจริงก็ไม่ใช่แค่ของหวาน จากคำบอกเล่า ดูเหมือนตอนที่ ‘ลอย’ จากฤทธิ์ของกัญชา หลายคนจะอยากอาหารกันเป็นพิเศษ […]
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเด็นเรื่องการปลดกัญชาออกจากสารเสพติด เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ หรือการใช้ประโยชน์ในเชิงสันทนาการ เป็นที่พูดถึงทั้งในไทยและต่างประเทศ
โดยในแง่ของความเคลื่อนไหว ประเทศสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการทยอยเปลี่ยนแปลงกฎหมายกัญชาในรัฐต่างๆ ซึ่งประเด็นเรื่องของประโยชน์และโทษของกัญชาก็นับว่าเป็นที่ถกเถียงกันมาโดยตลอด
แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ BrandThink ไม่ได้มาชวนคุยเกี่ยวกับข้อดีหรือข้อเสียทางตรงของกัญชา แต่จะชวนทุกคนมาสำรวจพฤติกรรมข้างเคียงที่เปลี่ยนไปของผู้คน เมื่อกัญชากลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย
ต้องขออธิบายก่อนว่า การใช้กัญชามีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความรู้สึกอยากอาหาร โดยเฉพาะอาหารในกลุ่มของหวานและของขบเคี้ยว และในประเทศที่มีปัญหาเรื่องโรคอ้วน (Obesity) อย่างสหรัฐฯ ประเด็นนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึง
มหาวิทยาลัย Georgia State ได้ศึกษาเรื่องนี้โดยเปรียบเทียบช่วงเวลาที่ต่างกัน ระหว่างการอนุญาตให้กัญชาถูกกฎหมาย แล้วพวกเขาก็พบว่า รัฐที่มีการทำให้กัญชาถูกกฎหมาย จะส่งผลให้ยอดขายของหวานและอาหารขยะ (Junk Food) พุ่งสูงขึ้น
- ไอศกรีม 3.1%
- คุกกี้ 4.1%
- มันฝรั่งทอด 5.5%
ถึงแม้อาจจะพิสูจน์ได้ยากว่า การถูกกฎหมายของกัญชาเป็นเพียงปัจจัยเดียว ที่ทำให้ยอดขายของหวานเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้น แต่คนที่เคยใช้กัญชาน่าจะพอนึกภาพออกว่า ช่วงเวลาที่คุณ ‘ลอย’ หรือกำลังแข็งเป็นหิน (Stoner) ของหวาน เป็นเหมือนอาหารอันโอชะที่ช่างเย้ายวนคุณเสียเหลือเกิน
ความจริงก็ไม่ใช่แค่ของหวาน จากคำบอกเล่า ดูเหมือนตอนที่ ‘ลอย’ จากฤทธิ์ของกัญชา หลายคนจะอยากอาหารกันเป็นพิเศษ โดยผลข้างเคียงนี้แพทย์ยังนำไปใช้เยียวยาอาการต่างๆ ได้อีกด้วย
กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การเปลี่ยนแปลงกฎหมายบางอย่างนั้นส่งผลต่อมิติอื่นในทางพฤติกรรมของผู้คนด้วย เพราะฉะนั้นการศึกษาครั้งนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้การออกนโยบายในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับกัญชาระแวดระวังกันมากขึ้น เพราะโรคอ้วนก็ไม่ใช่เรื่องตลก เป็นเหมือนภัยร้ายที่คอยทำลายสุขภาพของผู้คนทั่วโลก
แต่อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะมีผลเสียเพียงอย่างเดียว ในแง่พฤติกรรมอื่นๆ ดูเหมือนว่าคนจะเลือกไปลอยกับกัญชา แทนที่จะไปเมากับเหล้าหรือเบียร์ หลังจากยอดขายผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์มีตัวเลขลดลงถึง 12.4% ซึ่งถ้าสำรวจกันลงลึกไปอีก เราอาจพบว่ายอดขายของแอลกอฮอล์ที่ต่ำลง อาจจะส่งผลดีต่อสังคมในมิติอื่นๆ อีกด้วย
แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรกับการถูกกฎหมายของกัญชา ยอดขายของหวานที่เพิ่มขึ้น และยอดขายแอลกอฮอล์ที่ลดลง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร มาแชร์กัน!
อ้างอิง:
- IFLS. Study Finds That When Cannabis Is Legalized, Ice Cream And Cookie Sales Go Up. https://bit.ly/3bOTgSh