
Giga Press
Giga Press หรือเครื่องหล่อและปั้มรถยนต์ที่ครบวงจรที่สุดในโลก (Die casting machine) นั้นถูกสร้างและคิดค้นโดยบริษัท IDRA Group จากประเทศอิตาลี่
Giga Press เป็นชุดเครื่องหล่ออลูมิเนียมที่ผลิตโดย Idra Group ในอิตาลี มันมีความโดดเด่นเป็นเครื่องหล่อแม่พิมพ์แรงดันสูงที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีแรงยึด 55,000 ถึง 61,000 กิโลนิวตัน (5,600 ถึง 6,200 tf) การใช้งานครั้งแรกของ OL 6100 CS กิกะเพรสเริ่มต้นโดย Tesla, Inc. ในปลายปี พ.ศ. 2563 โดยมีการผลิต Tesla Model Y รถยนต์ไฟฟ้าที่มีโครงรถด้านหลัง ที่โรงงานเทสลาในฟรีมอนต์ แคลิฟอร์เนีย
Tesla เป็นผู้บุกเบิกการใช้เครื่องจักรแม่พิมพ์หล่อขนาดยักษ์ (Giant die casts) ที่เรียกว่า Giga Press เพื่อสร้างชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของชิ้นส่วนใต้ท้องรถ และผู้ผลิตแม่พิมพ์กำลังพัฒนาให้สามารถหล่อเคสแบตเตอรี่และแพลตฟอร์มส่วนกลางที่รวมเคสแบตเตอรี่ไว้ด้วยได้
เครื่องจักรแม่พิมพ์หล่อขนาดยักษ์ Giga Press นี้ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการผลิต และลดการทำงานในหลายส่วนรวมทั้งลดการทำงานของหุ่นยนต์
ด้วยการเปลี่ยนวิธีการผลิตชิ้นส่วนที่ต้องใช้การเชื่อมประมาณ 60 ชิ้น เป็นโมดูลเดียว เครื่องจักรแม่พิมพ์หล่ออะลูมิเนียมขนาดมหึมาที่ผลิตโดยบริษัทต่าง ๆ รวมถึงบริษัท Idra Group ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของ Tesla กำลังช่วยบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ลดความซับซ้อนในการผลิต และลดต้นทุนในบางส่วนได้สูงถึง 40% และนี่น่าจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ Tesla กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำกำไรได้มากที่สุด
ปัจจุบัน Tesla ใช้งานเครื่อง Giga Press ในโรงงานทุกแห่งแล้ว รวมถึงในกรูนไฮด์ ใกล้กรุงเบอร์ลิน Tesla ระบุว่า การใช้เครื่องจักรแม่พิมพ์หล่อขนาดยักษ์ Giga Press ทำให้สามารถผลิตรถ Tesla รุ่น Model Y ได้ภายใน 10 ชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทคู่แข่งประมาณ 3 เท่า
และนี่น่าจะส่งผลให้บรรดายักษ์รถยนต์หลายค่าย เช่น Toyota, GM, VW, Hyundai, Volvo, Nio (หนึ่งในบริษัทจีนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า) ต่างก็กำลังคิดจะใช้แม่พิมพ์หล่ออะลูมิเนียมแรงดันสูงเช่นกัน เพื่อสร้างรถยนต์ให้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นGiga Press เป็นชุดเครื่องจักรแม่พิมพ์หล่ออลูมิเนียมแรงดันสูง อะลูมิเนียมหลอมเหลวที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กก. ถูกฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์หล่อในห้องเย็นด้วยความเร็ว 10 เมตรต่อวินาที มีวงรอบเวลาอยู่ที่ประมาณ 120 วินาที ส่งผลให้สามารถหล่อวัสดุได้สำเร็จ 30 ชิ้นต่อชั่วโมง และในแต่ละวันสามารถผลิตงานหล่อได้ประมาณ 500 ชิ้น โดยใช้กะทำงาน 8 ชั่วโมง 3 กะ
อย่างไรก็ตาม มีผู้มองในอีกมุมหนึ่งว่า กระบวนการใช้แม่พิมพ์หล่อขนาดยักษ์นี้ ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านคุณภาพและความยืดหยุ่นในการผลิต เนื่องจากข้อบกพร่องเพียงจุดเดียวอาจทำให้ทั้งโมดูลเสียหายได้ และทำให้การแก้ไขยากขึ้นหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
แต่ด้วยอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่กำลังดิ้นรนเพื่อรักษาอัตรากำไรท่ามกลางราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ต่างก็กำลังจะใช้เครื่องจักรแม่พิมพ์หล่อขนาดยักษ์ Giga Press ที่ผลิตโดยบริษัทต่าง ๆ รวมทั้ง Idra ในการผลิตรถยนต์ของตน
Riccardo Ferrario ผู้จัดการที่วไปของ Idra กล่าวว่า “ผู้ผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องจักรแม่พิมพ์หล่ออะลูมิเนียมอ้างว่า สามารถลดการลงทุนที่จำเป็นในการสร้างแชสซี (Chassi) ลงได้ 40% แชสซีรถ เป็นส่วนประกอบที่แพงเป็นอันดับ 2 ของรถยนต์รองจากเครื่องยนต์ และสามารถลดต้นทุนเฉลี่ยของชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถลงได้ 30%”
Ferrario ยังได้บอกว่า “ผมพนันได้เลยว่า ภายในปี 2035 ผู้ผลิตรถยนต์ 80% จะใช้ Giga Press อย่างน้อยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (BEV) ที่ใช้แพลตฟอร์มใหม่”
ตลาดเครื่องจักรแม่พิมพ์หล่ออะลูมิเนียมทั่วโลกมีมูลค่าเกือบ 73 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว 2022 และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 126 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2032, อ้างอิงข้อมูลของ AlixPartners ซึ่งวิเคราะห์จากข้อมูลของ Apollo Reports
Cr : Automotive News Europe, Source; REUTERS
หลังจากที่ Tesla ได้พิสูจน์แล้วว่าเครื่อง Giga Press สามารถนำมาใช้งานได้จริง และมีประโยชน์ต่อการผลิตโครงรถในหลายๆแง่มุม ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่านวัตกรรมนี้กำลังเป็นที่จับจ้องจากแบรนด์รถยนต์อื่นๆด้วยเช่นกัน และผู้ที่ได้ประโยชน์ก็จะเป็นบริษัท IDRA ผู้ผลิตเครื่องจักรนี้ในปัจจุบันนั่นเอง!!
อย่างไรก็ตาม IDRA ไม่ได้เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ IDRA ได้ถูกถือหุ้นโดย LK Technology (HKG: 0558) บริษัทจากจีน 100%
โดยเมื่อเราไปดูราคาหุ้นของ LK Technology จะเห็นว่านักลงทุนได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และราคาหุ้นก็ปรับตัวสูงขึ้นหลายสิบเท่าตัวในช่วงที่ผ่านมา
งานเขียนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิชา 751309 Macro Economic 2
ซึ่งสอนโดย ผศ.ดร. ณพล หงสกุลวสุ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
งานชิ้นนี้ โดย นางสาวกนกอร สุทธกุล รหัส651610004
รูปภาพจากเว็บไซต์ : https://www.autoinfo.co.th/article/391410/