
India Will Not Be The Next China
ในอดีตอินเดียมีการใช้นโยบายทางการค้าสำหรับอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในท้องถิ่นเช่นภาษีนำเข้าและโควตา ซึ่งหมายความว่าจะมีตลาดผู้บริโภคเกือบตลอดเวลา แต่มีข้อเสียคือทุกอย่างมีราคาแพงขึ้นสินค้านำเข้าราคาสูงเกินจริง วัตถุดิบนำเข้าก็มีราคาสูงเช่นกัน ส่งผลใก้ความสามารถในการแข่งขันในการส่งออกลดลง ประเทศอินเดียมีระดับการแทรกแซงของรัฐบาลที่รุนแรง บริษัทขนาดใหญ่ของรัฐบาลได้รับเงินอุดหนุน ซึ่งทำให้บริษัทเอกชนไม่สามารถแข่งขันได้ ซึ่งถูกเลือกว่า license ran ซึ่งเป็นระบบการออกใบอนุญาตกฎระเบียบที่ธุรกิจต่างๆต้องปฏิบัติตามเพื่อที่จะสามารถดำเนินกิจการได้ในอินเดีย ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทข้ามชาติ จะถือว่าอินเดียเป็นศูนย์กลางของการดำเนินกิจการเพราะยุ่งยากเกินไปที่จะร่วมงานด้วย ตั้งแต่ปี 1991 โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2000 อินเดียมีการเติบโตของจีดีพีที่รวด ส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่มีข้อจำกัดของรัฐบาล อินเดียจึงเป็นสถานที่ที่ดีในการทำธุรกิจเ ร็วมาก จากการยกเลิก license ran ในปี 1990 คนส่วนใหญ่ส่วนใหญ่คิดว่าคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของอินเดียคือจีนแต่อาจไม่จริงเสมอไป ปัจจุบันบริษัทอินเดียเสนอบริการที่ซับซ้อนมากกว่าศูนย์บริการทั่วไปอินเดียเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการบัญชี วิศวกรรม การออกแบบหรือแม้แต่การบริการทางกฎหมายซึ่งเป็นอุตสาหกรรมทั้งหมดที่ไม่มีประเทศอื่นในโลกสามารถแข่งขันได้ในแง่ของกำลังคนและความคุ้มค่าด้านต้นทุน ความสามารถพิเศษนี้จึงเป็นศูนย์กลางภาคบริการที่ทำให้อินเดียกลายเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในปี 2020 รัฐบาลยกเลิกกฎระเบียบอุตสาหกรรมการเกษตร การเลิกใช้สกุลเงินบางสกุล ปัญหาการทำงานนอกระบบการแบ่งแยกภาคทางการและไม่เป็นทางการแรงงานที่พูดภาษาอังกฤษได้มีรายได้มากกว่าประชากรที่ทำงานในเศรษฐกิจนอกระบบอย่างมีนัยยะ สำคัญ ประเทศอินเดีย มีประชากรอายุน้อย มีทักษะที่จะใช้ประโยชน์จากความซบเซาของจีนและสามารถเคลื่อนตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมได้อย่างราบรื่น มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก มีจีดีพี 3.5 ล้านๆดอลลีร์ ตามหลังเพียงสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี แต่กระจายไม่มากในหมู่ประชากร เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตที่ยั่งยืนเพิ่มเป็นสองเท่าทุกทุกห้าปี แต่ความเชื่อมั่นและความมั่นคงองค์กรระหว่างประเทศยังไม่แน่นอนในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ แต่อย่างไรก็ตามพลเมืองโดยเฉลี่ยของประเทศยังคงความยากจน อ้างอิง […]
ในอดีตอินเดียมีการใช้นโยบายทางการค้าสำหรับอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในท้องถิ่นเช่นภาษีนำเข้าและโควตา ซึ่งหมายความว่าจะมีตลาดผู้บริโภคเกือบตลอดเวลา แต่มีข้อเสียคือทุกอย่างมีราคาแพงขึ้นสินค้านำเข้าราคาสูงเกินจริง วัตถุดิบนำเข้าก็มีราคาสูงเช่นกัน ส่งผลใก้ความสามารถในการแข่งขันในการส่งออกลดลง
ประเทศอินเดียมีระดับการแทรกแซงของรัฐบาลที่รุนแรง บริษัทขนาดใหญ่ของรัฐบาลได้รับเงินอุดหนุน ซึ่งทำให้บริษัทเอกชนไม่สามารถแข่งขันได้ ซึ่งถูกเลือกว่า license ran ซึ่งเป็นระบบการออกใบอนุญาตกฎระเบียบที่ธุรกิจต่างๆต้องปฏิบัติตามเพื่อที่จะสามารถดำเนินกิจการได้ในอินเดีย ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทข้ามชาติ จะถือว่าอินเดียเป็นศูนย์กลางของการดำเนินกิจการเพราะยุ่งยากเกินไปที่จะร่วมงานด้วย
ตั้งแต่ปี 1991 โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2000 อินเดียมีการเติบโตของจีดีพีที่รวด ส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่มีข้อจำกัดของรัฐบาล อินเดียจึงเป็นสถานที่ที่ดีในการทำธุรกิจเ ร็วมาก จากการยกเลิก license ran ในปี 1990
คนส่วนใหญ่ส่วนใหญ่คิดว่าคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของอินเดียคือจีนแต่อาจไม่จริงเสมอไป ปัจจุบันบริษัทอินเดียเสนอบริการที่ซับซ้อนมากกว่าศูนย์บริการทั่วไปอินเดียเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการบัญชี วิศวกรรม การออกแบบหรือแม้แต่การบริการทางกฎหมายซึ่งเป็นอุตสาหกรรมทั้งหมดที่ไม่มีประเทศอื่นในโลกสามารถแข่งขันได้ในแง่ของกำลังคนและความคุ้มค่าด้านต้นทุน ความสามารถพิเศษนี้จึงเป็นศูนย์กลางภาคบริการที่ทำให้อินเดียกลายเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ในปี 2020 รัฐบาลยกเลิกกฎระเบียบอุตสาหกรรมการเกษตร การเลิกใช้สกุลเงินบางสกุล ปัญหาการทำงานนอกระบบการแบ่งแยกภาคทางการและไม่เป็นทางการแรงงานที่พูดภาษาอังกฤษได้มีรายได้มากกว่าประชากรที่ทำงานในเศรษฐกิจนอกระบบอย่างมีนัยยะ สำคัญ ประเทศอินเดีย มีประชากรอายุน้อย มีทักษะที่จะใช้ประโยชน์จากความซบเซาของจีนและสามารถเคลื่อนตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมได้อย่างราบรื่น มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก มีจีดีพี 3.5 ล้านๆดอลลีร์ ตามหลังเพียงสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี แต่กระจายไม่มากในหมู่ประชากร เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตที่ยั่งยืนเพิ่มเป็นสองเท่าทุกทุกห้าปี แต่ความเชื่อมั่นและความมั่นคงองค์กรระหว่างประเทศยังไม่แน่นอนในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ แต่อย่างไรก็ตามพลเมืองโดยเฉลี่ยของประเทศยังคงความยากจน
อ้างอิง
งานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา 751309 Macro Economic 2 สอนโดย ผศ.ดร. ณพล หงสกุลวสุ
คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
งานชิ้นนี้เขียนโดย นางสาวภูริชญา ดอกคำ 651610353