ญี่ปุ่นทำยังไง ถึงทำให้แก๊งมอเตอร์ไซค์วัยรุ่นหายไป?

ญี่ปุ่นทำยังไง ถึงทำให้แก๊งมอเตอร์ไซค์วัยรุ่นหายไป?

ในบ้านเรา เริ่มมีกระแสอีกว่า ‘สื่อทำให้วัยรุ่นตีกัน’ หลังจากภาพยนตร์ 4 Kings ออกฉายในต้นเดือนธันวาคม 2021 เราอาจปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘วัยรุ่นตีกัน’ เป็นปัญหาจริงๆ แต่ถ้าเราจะมองปัญหานี้ บางทีเราอาจต้องมองอย่างเปรียบเทียบกับสังคมอื่น ซึ่งในที่นี้เราอยากจะเล่าถึงญี่ปุ่นที่เคยมี ‘แก๊งมอเตอร์ไซค์วัยรุ่น’ ที่ออกขับรถเสียงดังและทำลายข้าวของมากมาย แต่ทุกวันนี้แทบไม่เหลือแล้ว ใช่ครับ เรากำลังพูดถึงแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่เราเห็นบ่อยๆ ในพวก ‘การ์ตูนนักเลง’ ของญี่ปุ่นในยุค 1990s นั่นแหละ คือพวกคนที่ใส่ ‘ชุดช่าง’ เอาผ้าพันแผลพันตรงท้อง ไว้ผมทรงปอมปาดัวร์ คาดหัวด้วยธงชาติญี่ปุ่น ขับรถแต่งซิ่ง และโบกธงอาทิตย์อุทัย อะไรทำนองนั้นแหละ แล้วญี่ปุ่นทำยังไง? อันนี้อาจต้องเล่าย้อนก่อนว่าแก๊งพวกนี้เกิดขึ้นได้ยังไง แก๊งมอเตอร์ไซค์แรกๆ ว่ากันว่าเกิดหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และเกิดจากพวกนักบินคามิกาเซ่ที่ไม่ทันได้ออกรบ สงครามจบซะก่อน คนพวกนี้เรียกได้ว่าถูก ‘ฝึกจิตใจมาจนไม่ปกติ’ จนใช้ชีวิตแบบปกติในสังคมไม่ได้ ก็เลยต้องออกไป ‘หาความตื่นเต้นเสี่ยงตาย’ ซึ่งนั่นหาได้จากการขับรถเร็วๆ และรถที่พอซื้อหาได้ก็คือมอเตอร์ไซค์ เพราะญี่ปุ่นเป็นชาติที่ผลิตมอเตอร์ไซค์มากมายมายาวนาน (รถยนต์นี่เพิ่งผลิตทีหลัง) และจริงๆ ทั้งหมดมันวางอยู่บนแนวคิดแบบ ‘ชาตินิยม’ จัดๆ คนพวกนี้คือพวก ‘ขบถ’ ที่มีความเท่ในยุคที่สังคมญี่ปุ่นแพ้สงครามและเริ่มไม่มั่นใจในชาติตัวเอง พวกเด็กวัยรุ่นก็เลยมองพวกนี้เป็นแบบอย่าง […]

ในบ้านเรา เริ่มมีกระแสอีกว่าสื่อทำให้วัยรุ่นตีกันหลังจากภาพยนตร์ 4 Kings ออกฉายในต้นเดือนธันวาคม 2021

เราอาจปฏิเสธไม่ได้ว่าวัยรุ่นตีกันเป็นปัญหาจริงๆ แต่ถ้าเราจะมองปัญหานี้ บางทีเราอาจต้องมองอย่างเปรียบเทียบกับสังคมอื่น ซึ่งในที่นี้เราอยากจะเล่าถึงญี่ปุ่นที่เคยมีแก๊งมอเตอร์ไซค์วัยรุ่นที่ออกขับรถเสียงดังและทำลายข้าวของมากมาย แต่ทุกวันนี้แทบไม่เหลือแล้ว

ใช่ครับ เรากำลังพูดถึงแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่เราเห็นบ่อยๆ ในพวกการ์ตูนนักเลงของญี่ปุ่นในยุค 1990s นั่นแหละ คือพวกคนที่ใส่ชุดช่างเอาผ้าพันแผลพันตรงท้อง ไว้ผมทรงปอมปาดัวร์ คาดหัวด้วยธงชาติญี่ปุ่น ขับรถแต่งซิ่ง และโบกธงอาทิตย์อุทัย อะไรทำนองนั้นแหละ

แล้วญี่ปุ่นทำยังไง? อันนี้อาจต้องเล่าย้อนก่อนว่าแก๊งพวกนี้เกิดขึ้นได้ยังไง

แก๊งมอเตอร์ไซค์แรกๆ ว่ากันว่าเกิดหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และเกิดจากพวกนักบินคามิกาเซ่ที่ไม่ทันได้ออกรบ สงครามจบซะก่อน คนพวกนี้เรียกได้ว่าถูกฝึกจิตใจมาจนไม่ปกติจนใช้ชีวิตแบบปกติในสังคมไม่ได้ ก็เลยต้องออกไปหาความตื่นเต้นเสี่ยงตายซึ่งนั่นหาได้จากการขับรถเร็วๆ และรถที่พอซื้อหาได้ก็คือมอเตอร์ไซค์ เพราะญี่ปุ่นเป็นชาติที่ผลิตมอเตอร์ไซค์มากมายมายาวนาน (รถยนต์นี่เพิ่งผลิตทีหลัง) และจริงๆ ทั้งหมดมันวางอยู่บนแนวคิดแบบชาตินิยมจัดๆ

คนพวกนี้คือพวกขบถที่มีความเท่ในยุคที่สังคมญี่ปุ่นแพ้สงครามและเริ่มไม่มั่นใจในชาติตัวเอง พวกเด็กวัยรุ่นก็เลยมองพวกนี้เป็นแบบอย่าง หรือพูดง่ายๆ คือมองว่าการขับขี่มอเตอร์ไซค์เร็วๆ และเสียงดังๆ พร้อมทั้งถือแนวคิดชาตินิยมเป็นสิ่งที่เท่ และก็อย่างที่บอก สำหรับญี่ปุ่น มอเตอร์ไซค์ไม่ใช่ของแพงอะไร มันเป็นของที่ผลิตในประเทศ ดังนั้นราคามันจับต้องได้ และวัยรุ่นชนชั้นล่างพอจะซื้อหาได้

สุนทรียภาพของแก๊งมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่นก่อตัวในช่วง 1950s คือมันเอาส่วนผสมของวัฒนธรรมย่อยที่เรียกว่ากรีสเซอร์’ (Greaser) ของอเมริกา มาผสมกับพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์ท้องถิ่นในญี่ปุ่น หรือพูดง่ายๆ มันเอาวัฒนธรรมอเมริกัน (ซึ่งมีอิทธิพลมากกับญี่ปุ่นในช่วงหลังสงครามโลกหมาดๆ) มาผสมกับวัฒนธรรมย่อยของพวกนักบินคามิกาเซ่ที่ผันตัวมาเป็นสิงมอเตอร์ไซค์ชาตินิยม ผสมกับวัฒนธรรมชนชั้นล่างของพวกวัยรุ่นเองอีกที หรือพูดง่ายๆ ก็คือ นี่เป็นเหตุผลที่ผมทรงปอมปาดัวร์แบบอเมริกันมันมาผสมกับชุดช่างแบบชนชั้นแรงงาน และมาผสมกับผ้าคาดหัวธงชาติญี่ปุ่นและธงอาทิตย์อุทัยแบบพวกชาตินิยม ออกมาเป็นภาพลักษณ์ของพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์วัยรุ่นญี่ปุ่นอย่างที่เราเห็น

ตอนแรกพวกนี้มีไม่เยอะ เพราะชาติญี่ปุ่นจนมากในช่วงแพ้สงครามใหม่ๆ แต่พอญี่ปุ่นกลับมาตั้งหลักทางเศรษฐกิจได้ในช่วง 1960s และเศรษฐกิจญี่ปุ่นโตรัวๆ ในช่วง 1970s-1980s คนญี่ปุ่นก็มีกำลังในการจับจ่ายในสารพัด พวกชนชั้นล่างก็รวยขึ้นด้วย ก็เลยมีการซื้อมอเตอร์ไซค์กัน ซึ่งช่วงพีคๆ ของพวกนี้ก็คือ 1980s ซึ่งเป็นช่วงพีคของเศรษฐกิจญี่ปุ่นด้วย โดยพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์ในญี่ปุ่นช่วงนั้นมีรวมถึงกว่า 4 หมื่นคน

แก๊งพวกนี้ เอาจริงๆ ตำรวจทำอะไรไม่ได้ เพราะว่ากันตามกฎหมาย การขี่มอเตอร์ไซค์มันไม่ผิดกฎหมาย การแต่งรถก็ไม่ผิดกฎหมาย การขี่รถรวมกันเยอะๆ ก็ไม่ผิดกฎหมาย หรือพูดง่ายๆ มันไม่มีกฎหมายระบุเฉพาะว่าพฤติกรรมทั่วๆ ไปของพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์มันผิดกฎหมาย เพราะพื้นฐานที่สุดคือพวกนี้ก็แค่ขี่รถและแต่งรถ

ซึ่งถามว่าพวกนี้ตีกันมั้ย? ก็แน่นอน มีตีกัน แต่เขาก็แอบๆ ตีกันไม่ให้ตำรวจหรือคนทั่วไปเห็น (เช่นแอบไปตีกันตามโกดังร้างแถวท่าเรือ) คือมันไม่ประเจิดประเจ้อ ดังนั้นตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งเคสเดียวที่ตำรวจจะทำอะไรพวกนี้ได้ คือพวกนี้ไปทำร้ายคนทั่วไป หรือไปทุบรถทุบกระจก แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำเปิดเผยกันเป็นปกติเช่นกัน

ดังนั้นในภาพรวม ช่วงพีคๆ ของแก๊งมอเตอร์ไซค์นั้นตำรวจทำอะไรพวกเขาไม่ได้ คือเห็นสมาชิกแก๊งมอเตอร์ไซค์ก็จะเข้าไปจับไม่ได้

แต่แล้ว จำนวนสมาชิกของแก๊งมอเตอร์ไซค์ก็แทบจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่งในช่วง 1990s คือเหลือ 2 หมื่นกว่าคน และลดลงอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน จนทุกวันนี้ในทศวรรษ 2020s คาดกันว่าเหลือไม่กี่พันคนแล้ว กล่าวคือใกล้สูญพันธุ์ไปจากสังคมญี่ปุ่นแล้ว

แล้วจริงๆ อะไรเกิดขึ้นกันแน่ที่ทำให้แก๊งมอเตอร์ไซค์หายไป?

ในระลอกแรก สิ่งที่ทำร้ายแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่สุดก็คือ การหยุดการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วง 1990s คือมันกระทบมากในเชิงรายได้ เพราะมันทำให้คนญี่ปุ่นเริ่มไม่มีรายได้มากมายเหมือนเดิมอีก และก็ไม่ต้องบอกว่าชนชั้นล่างได้รับผลกระทบที่สุด ซึ่งในกรณีผลกระทบต่อแก๊งมอเตอร์ไซค์ เศรษฐกิจขาลงก็ทำให้พวกชนชั้นล่างไม่มีเงินซื้อมอเตอร์ไซค์เหมือนตอนเศรษฐกิจพีคๆ และทำให้คนที่จะไปเข้าแก๊งมอเตอร์ไซค์ก็ลดลงๆ อย่างต่อเนื่อง

และพอแก๊งมอเตอร์ไซค์ลดลงเรื่อยๆ สภาญี่ปุ่นก็ไม่รอช้า ในปี 2004 ออกกฎหมายเพื่อฟาดต่อเนื่อง คือมันมีการยกเครื่องกฎหมายจราจรใหม่ และระบุชัดๆ เลยว่าพฤติกรรมของพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์มันผิดกฎหมาย (เช่น ระดับความดังเสียงชัดๆ ที่จะทำให้รถแต่งบางแบบมันผิดกฎหมาย) ซึ่งก็คือเป็นการให้อำนาจตำรวจจับสมาชิกพวกนี้เป็นครั้งแรก และผลที่ตามมาก็คือ มีสมาชิกแก๊งจำนวนมากโดนจับ และทำให้แก๊งหดตัวอย่างต่ำเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ อยากให้เห็นว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้มีความคิดทำนองว่า เด็กเป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์กันเพราะเห็นว่ามันเท่จากการอ่านการ์ตูนเลย เงื่อนไขมันซับซ้อนกว่านั้น

แต่จริงๆ ว่าก็ว่าเถอะนี่ก็น่าจะเรียกว่าเป็นอะไรที่ญี่ปุ่นสุดๆ เพราะญี่ปุ่นเป็นสังคมที่ไม่โทษสื่อเลยระดับสุดขั้ว เพราะอย่างน้อยๆ ญี่ปุ่นในภาพรวมก็ไม่เคยมองว่าคนออกไปข่มขืนเพราะดูหนังโป๊ข่มขืนดังเช่นประเทศอนุรักษนิยมปกติ นอกจากนี้ที่โหดมากก็คือญี่ปุ่นไม่มองว่าคนออกไปล่วงละเมิดเด็กเพราะอ่านโดจิน (Doujin) ที่มีตัวละครเด็กด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่ในประเทศอื่นมันมองว่าโดจินเหล่านี้ถือเป็นสื่อโป๊เด็กที่ผิดกฎหมาย

ด้วยพื้นฐานเช่นนี้เอง ก็ไม่แปลกว่าญี่ปุ่นก็จะไม่ได้มองเช่นกันว่าเด็กญี่ปุ่นเป็นอันธพาลกันเพราะอ่านการ์ตูนที่มีตัวเอกเป็นอันธพาล

อ้างอิง

bosozokueconomichistoryjapanmotorcycleteenager