คนเดนมาร์ก ‘ปาจาน’ ใส่ประตูบ้าน คนเม็กซิกันใส่ ‘กางเกงในสีแดง’ ให้โชคดีในความรัก คนญี่ปุ่น ‘ตีระฆัง’ ไล่กิเลส 108 ประการ ทำความรู้จักธรรมเนียมรับปีใหม่พิสดารจากทั่วโลก

คนเดนมาร์ก ‘ปาจาน’ ใส่ประตูบ้าน คนเม็กซิกันใส่ ‘กางเกงในสีแดง’ ให้โชคดีในความรัก คนญี่ปุ่น ‘ตีระฆัง’ ไล่กิเลส 108 ประการ ทำความรู้จักธรรมเนียมรับปีใหม่พิสดารจากทั่วโลก

พูดถึงปีใหม่ สำหรับชาวไทย สิ่งที่จะทำให้รู้สึกว่ามันหมดปีแล้วน่าจะเป็นเสียงพลุ แต่ในอีกหลายวัฒนธรรมทั่วโลก มันมีธรรมเนียมการ ‘รับปีใหม่’ แบบแปลกๆ เฉพาะตัวเต็มไปหมด

เดนมาร์ก: การเอาจานไปปาใส่ประตูบ้านคนอื่นและเพื่อนบ้านในคืนวันสิ้นปีนั้น เชื่อกันว่าจะทำให้โชคดีในปีถัด โดยก็จะเชื่อกันอีกว่าถ้าบ้านไหนตื่นเช้ามาวันที่ 1 เจอเศษจานจำนวนมากหน้าประตู ก็จะยิ่งโชคดีในปีนั้น

เยอรมนี: มีความเชื่อกันว่าเรา ‘ทำนาย’ ปีข้างหน้าได้ด้วยการเทตะกั่วหลอมเหลวลงในน้ำ โดนปกติก็คือจะเอาตะกั่วใส่ช้อนแล้วเอาเทียนลนให้ละลายแล้วเทลงไปในภาชนะที่ใส่น้ำ ซึ่งอาจดีหรือร้ายก็ได้ เช่นถ้าตะกั่วกลายเป็นทรงกลมจะเชื่อว่าโชคดีจะ ‘กลิ้ง’ มาหาเรา ถ้าเป็นทรงมงกุฎ จะเชื่อว่าเราจะมั่งคั่ง ถ้าเป็นรูปดาวเชื่อว่าเราจะมีความสุข แต่ถ้าเป็นรูปกางเขนก็จะเชื่อว่ามันจะมีเหตุการณ์เกี่ยวกับความตาย

สเปน: การกินองุ่น 12 ลูก พร้อมเสียงระฆัง 12 ครั้ง ตอนเที่ยงคืนวันที่ 31 ธันวาคม เป็นพิธีกรรมที่เชื่อกันว่าจะทำให้โชคดีไปยาวๆ 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งคนสเปนก็อาจรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่มีมานาน แต่จริงๆ เพิ่งมีขึ้นเมื่อปี 1909 หลังจากชาวไร่องุ่นในปีนั้นที่มีผลผลิตล้นตลาดเกิดหัวใส สร้างธรรมเนียมใหม่มาเพื่อขายองุ่น และมันก็กลายเป็นปฏิบัติกันมายาวๆ จนถึงทุกวันนี้

สกอตแลนด์: มีความเชื่อว่าคนแรกที่เดินเข้าประตูบ้านหลังปีใหม่ต้องเป็นชายผมดำเท่านั้น ปีต่อไปถึงจะมีโชค โดยชายที่ว่าก็ต้องถือของขวัญมาด้วย (บางทีก็เป็นสกอตช์วิสกี้นี่แหละ) ว่ากันว่าความเชื่อนี้ย้อนไปยาวถึงยุคที่พวกไวกิ้งมาบุกอังกฤษ ซึ่งยุคนั้นถ้าไวกิ้ง ‘ผมทอง’ มาเคาะประตูบ้านจะหมายถึงโชคร้าย ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้โชคดีคือสิ่งตรงกันข้าม อย่างคนสกอตช์ผมดำเดินเข้าประตูบ้าน

โรมาเนีย: มีการใส่ชุดสัตว์ต่างๆ เต้นออกไปจากประตูบ้านในวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเขาเชื่อว่า ‘สัตว์’ เหล่านี้จะนำโชคร้ายต่างๆ ออกไปจากบ้านและทำให้ความโชคดีเข้ามาแทนที่ 

ในประเทศลาตินอเมริกันอย่างเม็กซิโก ก็มีความเชื่อว่าถ้าใส่กางเกงในที่มีสีสันจะทำให้ปีหน้าโชคดี ซึ่งจะมีโชคแบบไหนก็ให้เลือกสีกางเกงในเลย เช่นสีแดงจะช่วยให้ประสบความสำเร็จด้านความรัก สีเหลืองจะช่วยให้ประสบความสำเร็จด้านหน้าที่การงานและร่ำรวย

โคลอมเบีย: สิ่งที่เชื่อว่าจะทำให้ปีต่อไปมีการ ‘เดินทางท่องเที่ยว’ และ ‘ผจญภัย’ ก็คือกระเป๋าเดินทาง ซึ่งคนก็จะลากกระเป๋าเดินทางเปล่าๆ ไปมาในช่วงขึ้นปีใหม่ รวมถึงเอากระเป๋าเดินทางเปล่าๆ วางไว้หน้าบ้าน เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้ปีนั้นมีโอกาสได้ไปเที่ยว

เอกวาดอร์: มีความเชื่อว่าเราต้อง ‘เผา’ สิ่งไม่ดีให้หมดไปในปีเก่า ดังนั้นเขาจะทำหุ่นคล้ายๆ หุ่นไล่กาเอาไว้เผาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการทิ้งสิ่งไม่ดีไว้ในปีเก่า ซึ่งธรรมเนียมนี้ สันนิษฐานกันว่าเกิดเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 และเกิดจากการเผาศพคนเป็น ‘ไข้เหลือง’ ที่ระบาดหนักช่วงนั้น

อิตาลี: ก็มีความเชื่อคล้ายๆ กันนี้ แต่เขาจะไม่ทำการเผา แต่เป็นการโยน ‘ของเก่า’ ทิ้งทางระเบียงบ้านช่วงปีใหม่ และก็ไม่ต้องกลัว เพราะส่วนใหญ่ทุกวันนี้เขาปรับเป็นโยนแค่สิ่งของชิ้นเล็กๆ ที่หล่นใส่หัวคนแล้วไม่ทำให้ถึงขั้นเลือดตกยางออก โดยความเชื่อนี้ว่ากันว่าเริ่มจากชาวเนเปิลส์ก่อนที่จะกระจายไปในวงกว้าง

ฟิลิปปินส์: มีความเชื่อว่าถ้าเรามี ‘สิ่งของกลมๆ’ อยู่ใกล้ๆ ในช่วงปีใหม่ เงินทองจะไหลมาเทมา ดังนั้นชุดปีใหม่ของฟิลิปปินส์จะเป็นลายโพลกาดอต (polkadot) อาหารต่างๆ ก็จะเป็นทรงกลมๆ กันหมด ถ้าถามว่าทำไมต้องกลมๆ ก็น่าจะเพราะมันเป็นตัวแทนของ ‘เหรียญ’ หรือเงินนั่นเอง

ญี่ปุ่น: ในวัดพุทธจะมีการตีระฆัง 108 ครั้งตอนสิ้นปี โดยจะตี 107 ครั้งก่อนสิ้นปี และพอขึ้นปีใหม่ก็จะตีอีกครั้งให้ครบ 108 ซึ่งถามว่าทำไมต้อง 108 ก็เพราะทางพุทธมหายานมีความเชื่อว่ามนุษย์มีกิเลส 108 ประการ และการตีระฆัง 108 ครั้งก็คือการขับไล่กิเลสเหล่านี้พร้อมทำการ ‘ชำระจิตใจ’ ให้พร้อมสำหรับการมีชีวิตในปีต่อไปนั่นเอง

อ้างอิง

12 Weird New Year’s EveNew Year traditionsรับปีใหม่