Tesla Giga Press

แต่ก่อนในการผลิตรถยนต์นั้น เราจะผลิตรถยนต์โดยใช้หุ่นยนต์แทนคน ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนที่ต้องการใช้รถอยู่ดี Tesla จึงพยายามพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น โดยเริ่มจากการทำโครงสร้างของตัวรถ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลาทำนานที่สุด ใช้หุ่นยนต์เป็นพันตัวในการทำแต่ละชิ้นส่วนและเชื่อมชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเข้าด้วยกันจนกลายเป็นโครงสร้างรถแต่ละคัน ซึ่ง Tesla ก็ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยลดขั้นตอนจากร้อยกว่าขั้นตอนให้เหลือเพียงแค่ขั้นตอนเดียว

Giga Press คืออะไร?

High pressure die casting machine หรือเครื่องหล่อโลหะด้วยการฉีดโลหะหลอมละลายเข้าแม่พิมพ์ด้วยแรงดันสูง ผลิตโดยบริษัท IDRA ของ Italy ซึ่ง IDRA ก่อตั้งขึ้นในปี 1946 มีประสบการณ์ในการผลิตเครื่องหล่อโลหะแรงดันสูง die casting machine โดยมี LK Technology ของฮ่องกงเป็นบริษัทแม่ที่ทำเครื่องหล่อโลหะเหมือนกัน

Tesla เริ่มต้นด้วยการสั่งทำ Giga Press สำหรับผลิตแชสซีของรถรุ่น Model Y จาก IDRA เป็นแบบพิเศษเฉพาะของ Tesla ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีแรงบีบอัดมหาศาลมากถึง 6,000 ตัน

Giga Press ทำงานอย่างไร?

เริ่มจากการใช้น้ำมันฉีดเคลือบผิวแม่พิมพ์แบบบางๆ เพื่อช่วยให้สามารถถอดชิ้นส่วนที่หล่อเสร็จออกจากแม่พิมพ์ได้ง่ายขึ้น หลอมอลูมิเนียมอัลลอยที่ใช้ในการผลิตแชสซี่ในเตาหลอมเพื่อให้ได้อุณภูมิที่กำหนด

Tesla ได้พัฒนาอลูมิเนียมอัลลอยแบบพิเศษของตัวเองเพื่อใช้โดยเฉพาะกับเครื่อง Giga Press ด้วยการผสมอลูมิเนียมและซิลิโคนเข้าด้วยกัน ซึ่งหลอมละลายที่อุณหภูมิ 850 องศาเซลเซียส ใช้ลูกสูบดันอลูมิเนียมอัลลอยหลอมเหลวในปริมาณที่กำหนด ฉีดเข้าแม่พิมพ์ด้วยความเร็วสูง เพื่อหล่อแชสซีขึ้นตามแบบได้อย่างรวดเร็ว หลังจากชิ้นส่วนที่หล่อเสร็จมีอุณหภูมิลดลงเหลือ 400 องศาเซลเซียส แม่พิมพ์จะเปิดออกแล้วก็จะมีหุ่นยนต์มาทำการถอดแชสซีไปแช่ในแท็งค์น้ำเพื่อลดอุณหภูมิลงให้เหลือ 50 องศาเซลเซียส แล้วเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบคุณภาพ

Tesla Giga Press ดีอย่างไร?

1. ลดเวลาในการผลิต

Giga Press สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตแซสซีได้เร็วมากขึ้น ด้วยการหล่อแซสซีขึ้นเป็นชิ้นเดียว โดยใช้เวลาผลิตเพียงหนึ่งนาทีครึ่ง ซึ่งเร็วขึ้นเป็นร้อยเท่าจากวิธีผลิตเดิม

2. คุณภาพดีขึ้น

การหล่อแซสซีขึ้นเป็นชิ้นเดียวช่วยทำให้รถมีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้นและมีน้ำหนักเบาลง ช่วยให้รถวิ่งได้ไกลขึ้น และช่วยลดความผิดพลาดจากการผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากแล้วเชื่อมแต่ละชิ้นเข้าด้วยกัน

3. ราคาถูกลง

Giga Press ถึงจะมีราคาสูง แต่ทำให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละค้นของ Tesla ถูกลงมาก เช่น Giga Press 1 เครื่องช่วยลดหุ่นยนต์ที่ใช้ในการผลิตเดิมลงได้ถึง 30% หรือ 300 ตัว และลดขนาดของพื้นที่ที่ต้องใช้ในการผลิตลงได้อีก 30% รวมแล้วช่วยให้ต้นทุนในการผลิตแซสซีของ Tesla ลดลงได้ 40%

ส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้รถไฟฟ้า Tesla ปัจจุบันก้าวล้ำไปได้ไกลกว่าแบรนด์รถยนต์อื่นๆ เป็นเพราะองค์กรต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การนำของ Elon Musk ต่างเป็นองค์กรที่เป็นผู้นำทางความคิดทางวิศวกรรมที่ฉีกกรอบทั้งสิ้น เช่น Space X ผู้นำด้านการขนส่งทางอวกาศของเอกชน โดยจรวดเชื้อเพลิงเหลว ที่เด่นด้วยนวัตกรรมที่สามารถนำจรวดที่ใช้ยิงขึ้นไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่ง Elon Musk ใช้เหล่าหัวกะทิจากหลากหลายแวดวงที่อยู่ภายใต้การกำกับของเขามาร่วมสร้างผลิตภัณฑ์ที่ฉีกกรอบความคิดออกไป

แต่ถึงจะมีนวัตกรรมและมีสมรรถนะดีเลิศ แต่รถไฟฟ้า Tesla ก็ประสบปัญหาเรื่องการผลิตไม่น้อย เพราะหลายคนติว่าตัวรถนั้นมีปัญหาเรื่องการควบคุมคุณภาพการผลิต ด้วยการที่มีการใช้เทคนิคการประกอบซับซ้อนเกินไป สิ่งที่ปรากฏให้เห็น คือ รอยต่อที่ปรากฏบนตัวรถนั้นไม่ค่อยจะคงที่นัก และเมื่อเราไปดูสายการผลิตของโรงงาน Giga Factory แล้วจะพบว่าเป็นโรงงานที่ใช้หุ่นยนต์นับพันตัว ทำหน้าที่ในการ “เชื่อม” การ “ตอกหมุด” ใช้ “กาวประสาน” และแต่ละกระบวนการมักเป็นวัสดุต่างชนิดกัน ซึ่งในการประกอบจึงมีโอกาสที่จะเกิดความคลาดเคลื่อนของชิ้นงานค่อนข้างมาก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการค้นหาวิธีการแก้ไขปัญหา และสร้างความแตกต่างอย่างก้าวกระโดด ตามสไตล์ของ Elon Musk ที่ต้องหาวิธีที่ทำให้การประกอบรถเป็นไปอย่างแม่นยำมากขึ้น ผลิตได้เร็วกว่าเดิม และมีต้นทุนลดลง นอกจากนี้ ยังต้องมีน้ำหนักลดลงอีกด้วย ซึ่งทำให้คิดค้นโครงสร้างแบบอลูมินัมปั๊มขึ้นรูปขนาดใหญ่ชิ้นเดียว จากเครื่องจักรยักษ์ Giga Press โดยใช้กับ Tesla Model Y (เทสลา โมเดล วาย) นั่นเอง

งานเขียนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิชา 751309 Macro Economic 2

ซึ่งสอนโดย ผศ.ดร. ณพล หงสกุลวสุ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

งานชิ้นนี้ เขียนโดย นางสาวพรธีรา ประภาถะโร 651610278

อ้างอิง

https://www.autoinfo.co.th/article/391410/

https://www.car250.com/new-giga-press-2030-1.html#google_vignette